Tips เล็กๆ เกี่ยวกับการสร้าง Audience ( Facebook Ad )
เวลาเรากำหนด interest เพื่อยิง ad ลงไปสัก 1 คำ จากนั้นเราจะได้รับการแนะนำของระบบ ให้เห็นคำใหม่ๆ ที่ relate กัน
เช่น
เราใส่คำว่า ลดน้ำหนัก ลงไป เมื่อกดรับการแนะนำ ก็จะได้คำใหม่เพิ่มคือ น้ำหนักตัว, กลัวอ้วน, การออกกำลังกาย ฯลฯ
วันนี้ผมจะให้ข้อพิจารณาเล็กน้อยครับ
1. สำหรับการเพิ่ม interest ใน audience มากกว่า 1 คำ ควรใช้คำที่ระบบแนะนำให้ ( คำที่ relate กันที่สุด )
เพราะคนที่อยู่ในคำเหล่านี้ จะมีความทับซ้อน ( overlab ) และ ใกล้เคียงกันมากๆ
เวลาเราจะพิจารณาว่า audience ไหน เวิร์คหรือห่วย เราพิจารณาอย่างมั่นใจขึ้น
ไม่ใช่ เราใส่ ลดน้ำหนัก+แต่งงานแล้ว ( คำใหม่ที่ไม่ relate กัน จากการแนะนำของระบบ )
เราจะไม่รู้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้ มาจากคำไหนกันแน่
ถ้าจะแยก audience เป็นกลุ่มๆ แบบชัดเจนไปเลย จะได้ตัวอย่างประมาณนี้
- ลดน้ำหนัก,น้ำหนักตัว,โรคอ้วน,diet
- การตั้งครรภ์,แต่งงานแล้ว,แหวนหมั้น,ความเป็นแม่,ผู้ปกครอง
- บิกินี,ยกทรง,ชุดชั้นใน,ชุดว่ายน้ำ
ฯลฯ
2. เราสามารถนำกลุ่ม audience จากตัวอย่างข้อ 1 มาหาการทับซ้อนได้ครับ เพื่อพิจารณาว่า แต่ละกลุ่ม มันน่าลงทุนพร้อมกันไหม
บางคน ยิง ad มาหาผม 2 โฆษณาซ้อนเลย จากเพจเดียวกัน ( แต่ต่าง post )
ผมรู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือยครับ ถ้าเป็น retargeting ก็ว่าไปอย่าง แต่ผมเช็ค source แล้ว ปรากฏว่าต่างแค่ interest เอง
สรุป ถ้าไม่อยากให้มันทับซ้อนกันนัก ให้ไปที่หน้า audience แล้วเช็ค audience ทีละคู่ครับ คู่ไหนทับเกิน 50% ก็ทำการ exclude มันซะ
โดยให้ยึด audience ที่ขนาดใหญ่กว่า exclude ด้วย interest จาก audience ที่ขนาดเล็กกว่า สัก 1-3 คำ
แล้วเช็คการทับซ้อนใหม่
โดยปกติผม 30% กำลังสวย ไม่ทับซ้อนมากไป
ข้อสังเกตนึงที่ผมเก็บข้อมูลไว้คือ audience ที่ไม่ทับซ้อนกันเลย ผมเคยยิงอยู่ช่วงใหญ่ ยอดลดลงอย่างน่าประหลาด
ต่างจากการใช้ audience ที่ไม่ค่อยเคร่งครัดการทับซ้อนนัก ( ทับซ้อนบ้าง 30-50%) ที่ผมจะได้ยอดขายสมดุลเสมอ
ก็ลองไปเก็บข้อมูลกันเอาเองนะ คุณอาจได้ผลลัพธ์ต่างไปก็ได้ ถือว่า ข้อมูลหน้างานของใครของมันครับ
หวังว่าจะได้ประโยชน์
photo: www.addthis.com
Leave a Comment