เกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับ #HASHTAG

ถ้าจะพูดให้ดูเทพ # คือส่วนหนึ่งของภาษาโปรแกรม แต่ผมไม่เก่งเรื่องนี้ ไม่เท้าความนะ (จบ)

หลายๆ คนเริ่มรู้จัก คำว่า HASH TAG เมื่อ 2-3 ปี ย้อนหลังนี่เอง

บางคนเข้าใจว่า มันเริ่ม Popular มาจาก Twitter ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะ Twitter คือ พ่อของ HASHTAG

แต่ในความเป็นจริง HASHTAG ถูกใช้มาตั้งแต่โปรแกรม Chat รุ่นคุณปู่ที่รู้จักกันในชื่อ IRC Chat และ PIRCH 

โดยการใช้งานของ # จะใช้เพื่อแบ่งห้องสนทนา เป็นห้องๆ ตาม #Keyword เช่น #หาแฟน #ขอนแก่นน่ารัก ฯลฯ

นี่คือการใช้งาน HASH TAG ในยุคหนึ่ง

จนเมื่อ สื่อชุมชนออนไลน์เริ่มบูม Twitter ได้กระตุ้นการใช้ # อีกครั้ง แต่ในฐานะหมุดคำ เพื่อรวบรวม Content ต่างๆ ไว้เป็นหมู่ๆ เช่น นักเขียนท่านหนึ่งได้ทวิตคอนเซปต์ของหนังสือเล่มใหม่ ชื่อ วัยฝันวันเหงา แล้วใส่ #วัยฝันวันเหงา ลงไปด้วย

เมื่อผู้ติดตามได้เห็นว่ามี HASH TAG นี้เกิดขึ้นแล้ว ก็จะเป็นที่เข้าใจได้ทันทีว่า ต่อนี้ไป เขาจะสามารถเข้ามาดูข่าวสารที่เกี่ยวกับโปรเจคต์นี้ได้จากคำไหน

หรือ เขาสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับ HASH TAG นี้ได้เช่นกัน ตัวอย่าง นักอ่านได้ซื้อหนังสือเล่มนี้แล้วอยากวิจารณ์ ก็สามารถวิจารณ์ลง TW พร้อม #วัยฝันวันเหงา ลงไปด้วย หรือถ้าอยากแยกเป็นหมู่ใหม่ไปเลย ก็อาจตั้งคำใหม่เป็น #วิจารณ์วัยฝันวันเหงา เพื่อให้นักวิจารณ์เข้ามาแลกเปลี่ยนทัศนะกัน หรือ ให้นักอ่านคนอื่นได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น

สรุปสาระสำคัญของ HASH TAG คือ
1. เพื่อรวบรวม Data ต่างๆ ให้เป็นกลุ่มๆ ตาม #คำสำคัญ ที่ตั้งขึ้น
2. เพื่อให้ผู้คนทั่วไป เข้าถึง Data ได้ง่ายขึ้นโดยการค้นหาจาก #คำสำคัญ

ความนิยมของการใช้ HASH TAG ขึ้นอยู่กับประเภทของ Platform เป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวว่าชนชาติไหนเป็นคนใช้ เพราะแม้ในกลุ่มคนไทยยังใช้ไม่เหมือนกัน

อย่างกลุ่มคนที่เล่น TW จะใช้ # ได้มีวินัย และเหมาะสมที่สุด นั่นเพราะ TW ผนวก HASH TAG มาเป็นเครื่องมือหลักในการกระจายสื่อและรับสื่อ ตั้งแต่ยุคบุกเบิก

การใช้ HASH TAG ของชาว TW จึงถูกสืบทอดมาโดยปริยาย ไม่ต้องสอนกันตรงๆ

ต่างจาก FB ที่ไม่ได้ผนวก HASH TAG เป็นเครื่องมือหลัก และไม่ได้เปิดใช้งานมาตั้งแต่ต้น พฤติกรรมของชาว FB จึงไม่ใส่ใจต่อ HASH TAG นัก หากจะใช้ก็ต่อเมื่ออยาก Hi Li ข้อความให้ดูเด่นเท่านั้น เช่น #วันว่างวันชิล #กินวนไปค่ะสาวๆ

แม้กระทั่ง IG ที่ใช้ HASH TAG เป็นเครื่องมือหลักมาตั้งแต่ต้นแท้ๆ แต่พฤติกรรมจาก FB ก็ยังลามไปยังฝั่ง IG ด้วย ข้อนี้อาจเป็นเพราะ ในยุ่คที่ IG เข้ามาเมืองไทยแรก ประชากรที่เล่น IG จริงจังมีน้อยอยู่ จนเมื่อในช่วงหลังๆ นี้ เริ่มมีการถ่ายเทประชากรจาก FB ไปสู่ IG การใช้ HASH TAG ใน IG ในปัจจุบันจึงเลอะพอๆ กันกับ FB

ทีนี้จะขมวดเข้ามายังเรื่อง การตลาดออนไลน์ยังไง ?

ข้างบนผมเล่าถึงพฤติกรรมของการใช้ HASH TAG ในแต่ละ Social media เพื่อที่จะสื่อว่า ถ้าคุณจะลงทุนกับ #HASHTAG คุณต้องพิจารณา Platform ด้วย เช่น อยากเล่นกิจกรรม ถ่ายรูปคู่สินค้าแล้วติด #YOKURTDD #อร่อยดี เพื่อลุ้นรางวัล

คุณก็ต้องเข้าใจระบบการค้นหา ของ Platform นั้นๆ ก่อน อย่าง FB ถ้าเราใส่ #YOKURTDD#อร่อยดี มันจะไม่แยกคำ ขณะที่ IG จะแยกออกเป็น 2 คำ ให้อัตโนมัติ ดังนั้นก็พึงระวังผู้เข้าร่วมกิจกรรม ใช้ไม่เป็น แล้วไม่ถูกค้นเจอ ชวดรางวัล แต่ดันดราม่าภายหลัง อันนี้ก็จะงานงอกครับ 

คำแนะนำคือ เรียนรู้เรื่องการใช้ HASH TAG ในแต่ละ Social ให้เข้าใจ ก่อนลงทุนการตลาดกับ HASH TAG ครับ

ต่อมาเป็นเรื่องของการใช้ HASH TAG เพื่อการตลาดเชิง Organic หรือพูดแบบชาวบ้านคือ ใช้ๆ ไปไม่ต้องจ่ายตังค์ แต่ดันยอดขายได้

ถ้าจะใช้จริงๆ จังๆ ทาง FB จะบอกว่า ใช้จนแก่ก็ไม่ได้ยอดขายจาก HASH TAG หรอกครับ เพราะคนไทยที่เล่น FB ไม่มีพฤติกรรมหาข้อมูลจาก HASH TAG อยู่แล้ว 

แต่ถ้า TW และ IG อันนี้พอลุ้น แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะไม่ต้องติด TAG บน FB นะ ผมแค่เตือนให้ทราบก่อน ถือว่าให้ยาสลายมโนตั้งแต่ก่อนใช้

ทีนี้ควรติด HASH TAG ยังไง...แบ่งได้เป็น 3 วิธีคิดครับ

1. คำที่เกี่ยวข้องตรงๆ เช่น #รองเท้าวิ่ง #รองเท้าแบรนด์เนม #รองเท้ามือสอง
2. ชื่อสินค้า (แบรนด์เนม) เช่น #ADIDAS #ADIDASThailand
3. คำที่เกี่ยวข้องกลายๆ เช่น #ออกกำลังกาย #Fitness #FBT

ใช้ให้ครบ 3 แบบนี้ใน 1 Content ครับ และมีอีกข้อที่เสริมเข้ามา แต่ไม่ได้ใช้ประจำนัก คือ EVENT TAG เช่น คุณเป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการ วิ่งเพื่อพ่อ คุณอาจใช้ TAG นี้กับ Content ของคุณที่มีความเชื่อมโยงกัน หรือ ให้ลูกค้าที่สวม ADIDAS เข้าร่วมโครงการนี้ ถ่ายภาพรองเท้าพร้อมติด TAG #ADIDAS #วิ่งเพื่อพพ่อ เพื่อลุ้นรางวัลอะไร ก็ว่ากันไปครับ

การใช้ HASH TAG ไม่มีคำว่าผิดครับ มีแค่ ได้ประโยชน์หรือเปล่า ดังนั้น ถ้าเราคาดหวังว่าจะใช้ HASH TAG สร้างประโยชน์ให้เรา เราต้องคิด ก่อนใช้ ครับผม