Facebook Ads : เราจะสื่อสารด้วยอะไร และ อย่างไร?


การทำ Facebook Ads เราต้องรู้ว่า เราจะสื่อสารด้วยอะไร และ อย่างไร?

ผู้รับสารจึงจะเกิดการคล้อยตามและสั่งซื้อสินค้า ตามที่เรามุ่งหวัง

วันนี้ผมมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ มาให้อ่านเป็นไอเดียครับ

ประการแรก เราต้องรู้ว่า เราจะใช้อะไรมาเป็นวัตถุดิบในการสื่อสาร

ตัวอย่างเช่น 
1. เรื่องราวพิเศษของ ingredient หลัก
หรือ
2. การทดสอบประสิทธิภาพของสินค้า
หรือ
3. การการันตีคุณภาพจากสถาบันระดับประเทศ
หรือ
4. ผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง
ฯลฯ

เมื่อตัเสินใจได้ก็ทำเป็นบทความ รูปภาพ และวิดีโอเอาไว้เลยครับ

ประการที่สอง ค่อยมาคัดเลือกรูปแบบ Facebook Ads เช่น โปรโมตภาพ, หรือ คลิกไปยังเว็บไซต์ หรือ วิดีโอ ฯลฯ

ไม่มีรูปแบบไหนดีที่สุด มันอยู่ที่การสื่อสารครับ !!!

ถ้าคุณมักง่าย เอ้ย ชอบง่ายๆ...คุณก็อาจทำแค่ข้อความ+ภาพ

แต่ถ้าคุณมีชั้นเชิงขึ้นมาหน่อย อาจทำโฆษณาใน 2 รูปแบบนี้ครับ

1. วิดีโอ 

บางคนก็ทำคลิปรีวิวสินค้าตนเอง ตัวอย่าง อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก 

ผู้ขายจั่วหัวมาเลยว่าตอนนี้ตนเองน้ำหนักเริ่มสูงแล้ว อยากจะลดด้วยสินค้าที่กำลังจำหน่าย...ก็ชั่งน้ำหนักให้เห็นจะจะไปเลยว่าหนักจริงเท่าไร 

จากนั้นก็กินอาหารเสริมตามคู่มือระบุ  วันเวลาผ่านไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็มาชั่งน้ำหนักใหม่อีกหนเพื่อวัดผลว่าจะลงกี่กิโล

...คนดูเริ่มคล้อยตามครับ ทั้งๆ ที่มันคือ commercial ads (เนื้อหาเพื่อการค้า)  ซึ่งเบื้องหลังการถ่ายทำ เขาจะ make น้ำหนักตนเองอย่างไรก็ได้

แต่คนที่ inner ไปแล้ว เขาไม่สนใจครับ เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วมันลงจริงตามสรรพคุณกล่าวอ้างตอนต้น คนดูก็พร้อมควักเงินแล้ว

หนำซ้ำ โฆษณาแบบวิดีโอ ยังสามารถทำ custom audience  คนที่ดูวิดีโอจนถึง 95% เพื่อทำการ re-marketing ภายหลังได้ด้วย

วันนี้เขาอาจยังไม่ซื้อของของเรา แต่ด้วยความที่เขาดูวิดีโอจนจบ มันต้องมีการคล้อยตามบ้างแล้ว ซึ่งเราอาจปิดการขายด้วย Pushing marketing แล้วยิง Ads ไปยังคนเหล่านั้นโดยเฉพาะ

นี่คือลูกเล่นที่ Video Ads มีเพิ่มขึ้นมา

หรืออีกตัวอย่าง

2. การโฆษณารูปแบบคลิกไปยังเว็บไซต์ 

เราต้องวาง Sale Page ให้พร้อมด้วยข้อมูลที่ครบครัน ตามลำดับประมาณนี้
1. ปัญหา / ความต้องการ
2. Product information 
3. ราคาปกติ
3.1 สั่งซื้อ
4. ประสบการณ์จากผู้ใช้จริง
5. ราคาพิเศษ ภายใน 3-5 วันนี้
5.1 สั่งซื้อ
6. กรอกข้อมูลติดต่อเพื่อขอรับส่วนลด / สินค้าทดลอง / โปรโมชั่นใหม่

โดยปกติ Sale Page ที่เนื้อหาแน่น ต่อให้ลูกค้าไม่ซื้อ ก็ต้องกรอกประวัติบ้างครับ ซึ่งเราสามารถเอาที่อยู่ / เบอร์โทรศัพท์ / อีเมล ฯลฯ มาทำการ re-marketing ในอนาคต

และเช่นเดียวกันกับ Video Ads ครับ คนที่เข้าเว็บไซต์ของเรา เราสามารถทำ Custom Audience เพื่อยิงโฆษณาไปย้ำอีกครั้งได้

เราอาจทำการ re-targeting โดยการกำหนดว่า จะยิงโฆษณาไปยังคนที่เข้าชมเว็บไซต์ แต่ยังไม่กดสั่งซื้อ  หรือ จะยิงโฆษณาไปยังคนที่หยิบสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่กด สั่งซื้อ ก็ได้ครับ

มันมี Trick เยอะแยะเลย

แล้วยิ่งตอนนี้มีการทำโฆษณาแบบ Dynamic Product Ads (DPA) ด้วย ยิ่งเหมาะกับการ re-marketing ครับ เพราะบางคนเข้าเว็บไซต์ของเราแล้วเห็นเพียงสินค้า A แต่ยังไม่เห็น B-Z

เราใช้ DPA เพื่อให้ B-Z สุ่มการแสดงไปยังคนเดิม โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเซตโฆษณาหลายๆ ตัวให้เสียเวลา

***DPA เหมาะกับสินค้ากลุ่มแฟชั่น, ความงาม, IT และ gadget มากครับ เพราะสินค้ากลุ่มนี้จะมีหลาย item ที่ใกล้เคียงกัน เวลา DPA ทำงาน การแสดงผลโฆษณาก็จะไม่หลุดจากกลุ่มเป้าหมายเดิมที่ควรจะเป็น

ตอนนี้พัฒนาการของ Facebook Ads ไปไกลมากครับ แต่ก็ไม่ยุ่งยากนัก ขอแค่เรารู้ว่าเราจะสื่อสารด้วยอะไร โอกาสขายจะสูงขึ้นแน่นอน

***โบนัสของคนชอบทำโฆษณาด้วย รูปภาพ แล้วใช้เพียง โปรโมตโพสต์แบบพื้นๆ

คุณต้องใช้ Pushing Marketing + Line@ ครับ 

เช่น 

เฉพาะลูกค้า 100 ท่านแรก รับส่วนลด 10% สั่งซื้อเฉพาะทาง Line Official เท่านั้น ฯลฯ

ทีนี้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อให้ทันแคมเป็ญนี้จะกรูเข้าไปใน Line@ ของเราครับ แล้วค่อยไป re-marketing ใน Line@ เพื่อปิดการขายเพิ่ม

สูตรนี้สร้างยอดขายได้เรื่อยๆ ครับ แต่ Line@ อาจโตช้าหน่อยเพราะเราจะได้แค่คนที่ตัดสินใจซื้อเป็นหลัก

ถ้าอยากให้ Line@ โตไว ก็พยายามดึงผู้มุ่งหวังก่อนครับ ซึ่งผู้มุ่งหวังนี้ ยังไม่ใช่ผู้ที่จะซื้อนะ เช่น ผู้ที่มีปัญหาสิว แต่ยังไม่คิดจะซื้อสินค้าเราในตอนนี้

เราก็ทำแคมเป็ญ แจก Tester Kit สำหรับผู้ร่วมกิจกรรม 100 ท่านแรก โดยให้ร่วมเล่นกิจกรรมบน Line Official เท่านั้น ฯลฯ

ตอนนี้คนที่มีปัญหาสิวจะกรูเข้าไปด้อมๆ มองๆ เราใน Line@   แล้วเราค่อยหาแคมเป็ญเพื่อเปลี่ยน Follower เป็น Buyer ในลำดับต่อไป

วันนี้ขอจบเกร็ดสาระเล็กๆ เอาไว้เพียงเท่านี้ครับ หวังว่าจะได้ไอเดียบ้างไม่มากก็น้อยครับ

หรือคลิกที่นี่
https://line.me/ti/p/%40rhy8323b

photo; www.gsqi.com
ขับเคลื่อนโดย Blogger.