ดึงสติกันหน่อย, comfort zone ไม่ได้แย่หรอกนะ


ช่วงนี้กระแสปลุกระดมให้คนหันมาทำงานที่ชอบกำลังมาแรงเลย

ผมก็ชอบหลักการนี้นะ เพราะเมื่อเราทำงานที่ชอบ ทำงานที่ฝัน เราจะไม่ต้องทำงานอีก...

แต่ผมก็ไม่ได้จะเพ้อเจ้อตามไปซะทั้งหมดนะครับ ผมชอบดึงสติตัวเองด้วยการตั้งคำถาม

และคำถามที่ผมตั้งให้กับกระแสนี้คือ งานที่รักมันเลี้ยงปากท้องได้รอดไหม?

ปากท้องที่ว่า ไม่ได้หมายถึงแค่ตนเองนะครับ เพราะแค่ปากท้องผมคนเดียว เอาจริงๆ ผมกินมาม่า หรือขนมจีนจานละ 25 บาทหน้าปากซอยก็ได้

เดือนนึงค่าใช้จ่าย 9 พันก็ไหวครับ

แต่เราจะอยู่แบบเบี้ยน้อยหอยน้อย เพื่อรักษางานที่รักให้คงอยู่ต่อไป..ได้อีกกี่น้ำครับ

เมื่ออนาคต
1. เราต้องเจอคนรักและแต่งงาน ต้องมีค่าสินสอด + ค่าพิธีการรออยู่
2. เมื่อมีลูกก็ต้องเลี้ยงให้ดี (ค่าทำคลอดเดี่ยวนี้ก็ใช่ย่อย)
3. เมื่ออยากมีบ้าน มีรถ ก็ต้องใช้เงินดาวน์
4. พ่อแม่ที่นับวันยิ่งแก่เฒ่าล่ะ จะไม่พาท่านเข้าโรงพยาบาลดีๆ บ้างรึ?

ผมชื่นชมผู้ชายคนนึง ที่รู้จักเป็นการส่วนตัว นานแล้ว...

เขาชอบการเกษตร แต่ที่ถูกยึด จนระหกระเหินมาทำงานโรงงาน

เขาบอกว่า ถ้ากลับไปทำเกษตรตอนนี้ก็ทำได้นะ เพราะเขามีเงินทุนมากพอแล้ว

แต่ตอนนี้เขามีลูก เขาจึงกันเงินก้อนนี้ไว้เลี้ยงดูลูกก่อน...แล้วก็ใช้ชีวิตในระบบเดิมๆ ต่อไป เพื่อไม่ให้ชีวิตเกิดความเสี่ยง

ผมชื่นชมในกระบวนการคิดและการใช้ชีวิตของเขา ใครจะตำหนิว่าเขาเป็นพวกขี้ขลาด เพราะหวง comfort zone เขาก็คงไม่ยี่หระ

เพราะเขาเลือกสิ่งที่จำเป็นต่อคนในครอบครัว ก่อนสิ่งที่ชอบเป็นการส่วนตัว

หลายๆ คนที่ก้าวออกจาก comfort zone ไปทำในสิ่งที่รัก สิ่งที่ใฝ่ฝัน ผมก็ยินดีด้วยนะ แต่จะยิ่งดีกว่าเดิม

ถ้าการตัดสินใจของคุณ เกิดประโยชน์ต่อคนข้างหลังด้วย ไม่ใช่เพราะความชอบส่วนตัว...เพียงอย่างเดียว

photo: www.cultofmac.com
ขับเคลื่อนโดย Blogger.