แชร์ประสบการณ์ : แผนการจัดงบประมาณโฆษณาเฟซบุ๊ก

คำถามอมตะ "พี่คะ น้องควรลงโฆษณาวันละเท่าไรดี?"

ผมก็ไม่รู้ครับว่าน้องควรลงเท่าไร แต่ผมจะแชร์แผนงบประมาณของผมให้อ่านแล้วกันครับ

ผมเป็นพ่อค้าออนไลน์ที่ยึดลูกค้าเป็น main หลัก ดังนั้นสินค้าจึงถูกหมุนเวียนมาในสต้อกเสมอ ทั้งแบรนด์เก่า แบรนด์ใหม่

ซึ่ง lot การสั่งซื้อ ผมจะรู้ตัวเลขต้นทุน และกำไรสุทธิ (แบบที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ )

ตัวอย่าง 
กางเกงเล้กกิ้งขาเรียว รับราคาทุน 25,000 ขายออกทั้งหมดจะได้กำไร 24,000 บาท

เจ้ากำไรที่ยังเป็นตัวเลขอยู่นี่แหละครับ จะเป็นงบสำหรับบริหาร โดยแรกๆ ที่ผมเริ่ม launch โฆษณา ผมจะตัดมาก่อน 20% จากงบก้อนนั้น

เท่ากับ ผมมีเงินลงโฆษณาแล้ว 4,800 บาท

แล้วต่อมาผมจะมามองว่า ผมจะทำโฆษณากี่ตัว

ปกติผมจะวิ่ง 1-3 ตัว 

ต้นทุนต่อตัว 300 บาท ถ้าต่ำกว่านี้ผมไม่ค่อยได้ return นะครับ

เท่ากับวันนึงผมจะใช้ประมาณ 600 - 900 บาท

ถ้า...

1. กรณีกำไร ยอดขายวันนึง เกินต้นทุนโฆษณา ผมจะเริ่มเพิ่มการลงทุนครับ  ด้วยการเพิ่มเงินจาก 300 เป็น 500 บาท ต่อโฆษณา แต่ไม่เคยถึง 1,000 บาทต่อโฆษณา เพราะรู้สึกเสียเงินเปล่า

ผมจะค่อยๆ ปรับขึ้น จนถึงจุดที่ยอดขายหยุด ไม่ขึ้นตามเงินลงทุน ผมก็จะตัดลงมาที่ตัวเลขที่คิดว่าพอดีครับ 

2. กรณีขาดทุน  หมดวันละ 600-900 แล้วไม่ได้อะไรเลย  จนติดลบถึง 4,800 บาท ผมก็จะลดเงินลงเหลือแค่ 200-300 บาทต่อวันครับ (โฆษณาเพียงตัวเดียว) 

จนถึง 12,000 บาท (50% ของ 24,000 ) ก็ต้องยอมแพ้จริงๆ ครับ ผมไม่ฝืน เพราะนอกจากจะขายไม่ได้แล้ว ยังจะขาดทุนค่าโฆษณาเกินตัวอีก

ส่วนสินค้า ก็หาที่ปล่อยราคาถูกครับ แต่ไม่ถูกเกินไป ผมจะพยายามให้ได้กำไรติดมือกลับมาด้วย เจ้ากำไรตรงนี้แหละ จะมาชดเชยค่าโฆษณาที่ผมติดลบไป

ในส่วนของการปล่อยสินค้าค้างสต้อก หรือ หมดอนาคตกับ facebook ads

ความจริงแล้ว ผมไม่ได้ขายเก่งขนาดขายได้สารพัดอย่างครับ ผมเก็งสินค้าพลาดก็บ่อย แต่ผม...ยึดลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้น สินค้าของผมจึงมีคนพร้อมซื้อเสมอ (พร้อมซื้อตอนราคาถูกลงนะ จุดนี้ต้องเรียนรู้พฤติกรรมพวกเขาไว้ด้วยครับ สมาชิกของผมลด 40% นี่ ขายได้ทุกอย่างแน่นอน แต่ที่อื่นไม่รู้นะ)

ตัวอย่าง 
ผมมีสมาชิกในไลน์@ เกือบหมื่นคน เป็นกลุ่มคนอยากลดน้ำหนัก 

เมื่อกางเกงเล้กกิ้งผมถึงจุดใกล้ขาดทุน ผมจะเอามาปล่อยแบบ discount หรือ แถมไปกับสินค้าอื่นๆ ในไลน์@

ผมใช้วิธีนี้กับสินค้าที่เหลือครับ บางทีก็ได้ทุน บางทีก็ขาดทุน ยิ้มบ้าง เจ็บบ้าง คละๆ กันไปครับ 555+

นี่คือแผนงบประมาณโฆษณาเฟสบุค  และ แผนการจัดการสินค้าค้างสต้อก ที่ผมใช้

หวังว่าจะได้สาระนะครับ 

photo; www.theinsurgent.net