Product Compare สำคัญนะจ๊ะ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgR4neCxRwddxVx_mv_IxO75qy4qkvbKVyOJrNtFYkQtvLFmd_ySavcqe3Zqv6Tp8Hp4K3gGxWz9eLyw8JJTgj1B1OFBBSDm04qaO4zTrUYkuwVMoSogCZ5U042ubEfYNd-yHMAuZZ8Y95T/s1600/0.jpg)
เวลาคนจะตัดสินใจซื้อของ ในใจเขาจะมี "มาตร" อยู่เสมอ เพื่อเทียบกับสินค้าของเราว่ามันคุ้มค่าไหม
แม้แต่สินค้าที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี ยังไม่ได้ถูกซื้อเพราะผลลัพธ์อย่างเดียวเสมอไป
ลองคิดตามช้าๆ นะ
ผมมีเจลแต้มสิวยุบในหนึ่งคืน แล้วคู่แข่งก็มีผงแต้มสิวยุบในหนึ่งคืนเหมือนกัน
แต่ของผมดันแพงกว่า หรือ ใช้หมดเร็วกว่า มิไยลูกค้าจะสะบัดบ็อบเหมือนนารีที่ไร้ใจต่อกัน
นี่ก็เท่ากับว่า เชิงปริมาณ ผมแพ้แล้ว
แต่ผมก็คงต้องดิ้นล่ะครับ ยอดชายนายก๊อตจะไม่ยอมเสียฟอร์มแน่ๆ
สิ่งแรกที่ผมจะทำคือ Product Compare
เทียบคุณสมบัติอย่างๆ ให้เจอจุดแข็งของเราให้ได้ แล้วก็เอาจุดแข็งที่ว่านั้นแหละ มาเป็น Hi-Li ให้สินค้าของผม
ถ้าคุณสมบติเท่ากัน ราคาเท่ากัน แต่ได้น้อยกว่า งั้นลองมาดูซิว่าส่วนผสมของผมกับเขา ใคร Clean กว่ากัน (มีสารต้องห้ามไหม)
สภาพผิวที่เหมาะสมกับสินค้าของผมล่ะ (ใช้ได้กับทุกสภาพผิวไหม)
ข้อดีของเจลล่ะ (เช่น แห้งไว ไม่เปื้อนหมอน เปื้อนผ้าห่ม เหมือนแบบผง)
ส่วนผสมได้รับการรับรองจากสถาบันเด่นๆ บ้างไหม ฯลฯ
เหล่านี้คือสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยนะครับ และเมื่อเห็นจุดเด่นชัดๆ ที่จะทำให้สินค้าเราดูดีกว่าคู่แข่ง ก็ชูขึ้นมาเป็น Hi-Li เลย อย่ารีรอ
ลูกค้าก็เหมือนผู้หญิงแหละครับ เห็นใครดูดีกว่าก็มักจะไปกับคนนั้น....อันนี้ประสบการณ์ตรงของผมเอง ฮือๆๆๆๆ
photo;
Leave a Comment