LINE@ และ FACEBOOK FAN PAGE คล้าย แต่ ต่าง...


LINE@ ก็เหมือน Facebook Fan Page ครับ ต่างกันที่..

1. การเข้าถึง

- Facebook Fan Page ข้อดีคือโพสต์แล้วมีการเข้าถึงสมาชิกที่แน่นอน แม้เวลาจะผ่านไปเป็นวันๆ สมาชิกคนนั้นก็จะเห็นโพสต์อยู่ดี แต่ข้อเสียคือ การเข้าถึงโพสต์ต่ำเพียง 1-5% ของสมาชิกเพจ เช่น มีสมาชิก 100 คน โพสต์แล้วมีสมาชิกเห็นเพียง 3 คน

- LINE@ ข้อดีคือ ถ้าสมาชิกออนไลน์เข้ามาในช่วงเวลาที่เราโพสต์ไม่นานนัก เช่น เราโพสต์ 9.00 น. ถ้าสมาชิกออนไลน์ช่วงนี้ก็จะเห็นโพสต์ของเรา แต่ถ้าออนไลน์สัก 12.00 น. โพสต์ของเราจะถูกถมด้วยโพสต์คนอื่น ไม่ reverse กลับมาอีก

2. การสื่อสารเชิงรุก

- Facebook Fan Page มีโฆษณาที่กระจายในวงกว้าง ข้อดีคือ แม้จะไม่ใช่สมาชิกก็สามารถเข้าถึงได้ แต่เสียที่ต้องแสดงผ่านหน้า Feed ซึ่งบางทีก็ไม่มีสมาธิดู

- LINE@ สื่อสารได้เพียงสมาชิกเท่านั้น แบบ 1:1 ข้อดีคือ สมาชิกเห็นแน่ๆ แต่เสียคือ ยิงบ่อยก็รำคาญ โดนบล็อกได้ง่าย

3. Feature

- Facebook Fan Page มีลูกเล่นทางการตลาดเยอะกว่า นำเสนอ Content ได้กว้างกว่า 

- LINE@ ยังมีข้อจำกัดในการนำเสนอ Content พวกแบรนด์แฟชั่นที่มีสินค้าหลากหลาย จะเซ็งหน่อยนะครับ

ให้แค่ 3 ข้อก่อนนะครับ ไม่ได้อยากจะเอามาเปรียบเทียบว่าใครเจ๋งกว่าใคร แล้วต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แค่อยากชี้ให้เห็นว่า แต่ละตัวล้วนมีข้อเด่น-ด้อย ที่ต่างกัน

ผมได้ทดลองการขายสินค้าออนไลน์ด้วย Facebook และ LINE@ ควบคู่กัน ปรากฏว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีจนไม่น่าเชื่อครับ ยอดขายพุ่งขึ้น 2 เท่าเลยทีเดียว

อยากจะขายดี ต้องใช้ทั้ง 2 ตัวควบคู่กันครับ ฟันธงเลย

สำหรับใครที่อยากเข้าใจการใช้งาน LINE@ มากขึ้น ตอนนี้ผมมีหลักสูตรเปิดสอนอยู่นะครับ คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ 

คลิก http://www.fanfacemarket.com/p/blog-page_22.html

ขับเคลื่อนโดย Blogger.