เรื่องธรรมดาของคุณ แต่พิเศษสำหรับคนอื่นเสมอ


บ่นๆ ไม่ได้บ่นนาน คราวนี้ยาวหน่อย

เรื่องเกี่ยวกับความพยายามสร้างราคาให้ตัวเอง 

ในยุคนี้ใครๆ ก็มีงานพิเศษกัน รู้ใช่ไหมครับ ขนาดเด็กมัธยมยังมีรายได้เสริมกันเลย แพงกว่าเงินเดือนปริญญาตรีซะอีก

ผมมีโอกาสเจอคนมากมาย และหลายคนเข้ามารู้จักผมเพราะอยากมีรายได้เสริม 

ในช่วงหลังๆ ผมไม่ค่อยสนับสนุนให้ทำการค้าขายนัก เพราะการแข่งขันมันสูง เด็กเดี๋ยวนี้ขายเก่งกว่าผู้ใหญ่อีก ฮาร์ดเซลล์สุดๆ แถมคนก็พากันเชื่อ พากันซื้อ กว่าจะเหลือมาถึงรุ่นเราที่เอาแต่ห่วงภาพลักษณ์โง้นงี้...ก็เหลือน้อยแล้วครับ

ดังนั้นผมจึงมุ่งเน้นที่ทักษะพิเศษส่วนตัวเสียมากกว่า หรือถ้าอยากค้าขายจริง ผมก็บอกให้ไปทำงานแฮนด์เม้ดซะ...

เราไม่ได้ยอมแพ้การแข่งขัน แต่เรามองหาความแข็งแกร่งที่ใครก็จะมาโค่นมันลงไม่ได้...

วันนี้ผมจะขอกล่าวถึงเรื่องทักษะพิเศษนะครับ...

ทักษะพิเศษคือสิ่งที่ทุกคนมี ผมเชื่อว่ามีแน่ๆ ไม่อย่างใดก็อย่างนึง แต่คนเรามักมองข้าม มองไกล มองไปถึงดวงจันทร์ อยากไปให้ถึงดวงจันทร์ ทั้งๆ ที่รั้วบ้านมีมะละกอรออยู่ หิวก็เดินไปเด็ดมาตำกิน...อิ่มท้อง...ก็นอนพัก ชีวิตก็แค่นี้เองครับ

ด้วยความที่มักมองอะไรไกลๆ บางสิ่งบางอย่างที่เราคลุกคลี มันก็เลยกลายเป็นของไร้ค่าซะงั้น ทั้งที่จริงแล้ว สำหรับคนอื่น มันอาจมีค่ามาก สามารถเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

ยกตัวอย่างอาชีพที่ผมมองว่าไร้อนาคตมากๆ (ขออภัยนะครับ ผมมองอย่างนี้จริงๆ) คือ ตำแหน่งธุรการ เงินเดือนสตาร์ทต่ำ เพดานสูงสุดก็ต่ำไม่ทิ้งกัน แถมจุดสุดยอดของอาชีพก็แค่ตำแหน่งไม่กี่ขั้น ที่มีเจ้าของเดิมครองอยู่แบบกอดไม่ปล่อย...

จนกว่าคุณจะฉีกตัวเองออกมาเอง หรือฉายแววว่าจะทำอย่างอื่นได้ดีกว่า นั่นแหละ ถึงจะมีอนาคตกว่าเดิม

แต่...คนที่อยู่มานาน มีประสบการณ์เคี่ยวกรำ ผมอยากจะบอกว่า คุณคือตำราที่ยังมีชีวิต

ประสบการณ์ของคุณคือสิ่งมีค่าสำหรับเด็กจบใหม่มากมาย เชื่อไหม เด็กจบปริญญาตรีในสาขาที่ไม่ Special เมื่อย่างเข้าสู่วัยทำงานหลายคนต้องผ่านตำแหน่งธุรการทั้งนั้น

ถ้าคุณเพียงแค่ มองเห็นคุณค่าในตัวเอง เอาความรู้ + ประสบการณ์ในเส้นทางนั้นมาถ่ายทอด มันจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า เลอค่าสุดๆ

ผมเคย Co งานกับธุรกิจหลายแผนก แต่ละคนทำงานคนละทิศทาง ผมก็งงว่า ทำไม?

นั่นเพราะแต่ละคนไม่ได้ใส่ใจตำแหน่งตัวเอง ทำผ่านๆ เดี๋ยวก็ไป การพยายามพัฒนาตนเองในลู่ทางที่ถูกต้องจึงไม่มี

น้องที่รู้จัก ตำแหน่งธุรการฝ่ายที่ผมทำอยู่ เขาตัดพ้อธุรการฝ่าย Human ว่า เวลาพี่เค้าจัดเรียงงานมาส่ง มักมีปัญหา แต่พอหนูบอก เขาก็ชักหน้าใส่ 

ผมรู้สาเหตุนี้ นั่นเพราะน้องเค้าอายุน้อยกว่า แม้จะผ่านงานมามากกว่า เชี่ยวชาญกว่า แต่อีกฝ่ายตั้งกำแพงทิฐิใส่เพียงเพราะความอาวุโส นี่คือเรื่องที่สมควรได้รับการแก้ไขเรื่องนึง

แต่...ใครจะมานั่งจ้ำจี้จ้ำไชสอนกัน ขนาด ผจก.เองยังง้องแง้งไม่แพ้กันเลย

วันนึง เมื่อมีใครสักคน คิดค้นเนื้อหาประมาณว่า "ธุรการมือใหม่ ทำงานยังไงให้มืออาชีพ" ขึ้นมาล่ะ...

เหยดเข้ๆๆๆๆๆ เป็นผมผมก็ซื้อนะ จะเอาไว้ให้ลูกน้องอ่าน มันจะได้รู้ว่า ในลำดับงานต้องทำอะไรก่อน 1 2 3 4...

ถ้ากลัวว่าจะเป็นวิชาการเกินไปก็เรียบเรียงในลักษณะเรื่องเล่า ประสบการณ์ ผสมเรื่องอื่นสัพเพเหระลงไปบ้างก็ดี

อย่างเรื่องเม้าท์ของสาวๆ ออฟฟิศ ผมชอบอ่านนะ ไม่สิ เรียกว่าชอบเสือกดีกว่า สนุกดี เห็นเป็นสาวอ้อนแอ้นก็จริง แต่พอได้จับกลุ่ม 2 คนขึ้นไปละก็...เม้าท์จนผู้ชายยังอายครับ อันนี้เจอมากับตัว

จริงไม่จริง ?

หรืออาจเพิ่มเชาว์ปัญญาลงไปบ้าง อย่างเช่น การรับมือนายจ้างชีกอ การเจรจาพาที การจัดการวินัยตัวเอง การเก็บโต๊ะทำงานรกๆ การวางตัวในสถานการณ์พิเศษ การมองหาลู่ทางพัฒนาทักษะงาน เป็นต้น

แล้วค่อยๆ เล่าให้คนอื่นฟัง ผ่านเฟสบุค ผ่านเว็บบล็อก ก็ว่ากันไป

อยากได้เงินทันทีไหม...ก็ทำเป็นไฟล์ PDF ลงขายในเว็บไซต์ e-book ในราคาถูกๆ เอา

เป็นยังไงครับ...ไอเดียนี้ จริงๆ มันไม่ใช่ไอเดียที่วิเศษอะไร แต่ผมพยายามดึงมันมาให้คุณได้ตระหนักรู้ ว่าคุณนี่แหละ สิ่งที่มีคุณค่า

นำสิ่งนั้นในตัวคุณมานำเสนอครับ ให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น แล้วคุณจะมีคุณค่า มีราคา

แต่ท้ายสุด แนะนำว่าให้ส่งมอบองค์ความรู้อย่างตั้งใจ โดยไม่คิดเงินก่อน

เมื่อใดก็ตามที่คุณประทับราคาลงไปบนทักษะของคุณ มันก็จะมีราคาเพียงแค่นั้นครับ

ย้ำว่า...อย่าขาย เมื่อคนจำคุณได้ เงินจะตามมาเอง

เรื่องโดย www.facebook.com/goddy008
ภาพจาก www.huffingtonpost.ca
ขับเคลื่อนโดย Blogger.