หลักการสื่อสารเพื่อการขาย จำเป็นยังไงมาดูกัน?


วันนี้ใช้เศษเวลาไปนั่งสนทนาไอเดียงานด้านออนไลน์กับสหายท่านนึง

ก็คุยสรรพเพเหระไปเรื่อย ทีนี้ก็เข้าเรื่องที่น่าสนใจในการนั่งคุย คือ การเริ่มต้นขายสินค้า (e-commerce)

ก็จะถือโอกาสมาสรุปความคิดเป็นบทความย่อยๆ ให้อ่านกันเพลินๆ ครับ

In fact, การขายสินค้าออนไลน์ มันก็แค่การขายสินค้าธรรมดานี่แหละ แต่ย้ายการปิดการขายจากร้านค้าจริง มาเป็นทางออนไลน์แค่นั้นเอง

เรื่องที่ว่า จะขายได้หรือไม่ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกับว่าคุณขายช่องทางไหน (เฟสบุค อินสตาแกรม เว็บไซต์ อีเมล ฯลฯ) แต่อยู่ที่ว่าคุณปิดการขายได้หรือไม่?

ดังนั้น ไม่จำเป็นจะต้องขายสินค้าแค่ในเฟสบุคเสมอไป...จะขายที่ไหนก็ขายได้ เพียงแค่คุณเข้าใจคำว่า

สาส์น กับ ผู้รับสาส์น

คุณก็ปิดการขายได้ง่ายขึ้นแล้ว

สาส์น ในบริบทนี้หมายถึงสิ่งที่คุณสื่อ...เช่น ข้อมูลสินค้า ประโยชน์สินค้า ราคา ความน่าสนใจอื่นๆ
ผู้รับสาร ในบริบทนี้คือลูกค้า

ลองนึกภาพเวลาคุณจะคุยเรื่องนึงให้ใครคนนึงฟัง ถ้าเรื่องที่คุณเล่าไม่ได้มีผลต่อชีวิตเขา คิดว่าเขาจะสนใจไหม...กลับกัน ถ้าคุณเล่าในสิ่งที่เขาสนใจอยู่แล้ว ต้องการรู้อยู่แล้ว...เขาจะอยากฟังคุณพูดต่อไปๆ อย่างไม่รู้จักเบื่อใช่ไหม...แล้วเวลาคุณจะโน้มน้าวอะไรเขา มันก็จะง่ายขึ้นใช่หรือเปล่า...นี่ครับ ธรรมดาธรรมชาติของการสื่อสาร

ถ้าวันนี้คุณมีสินค้าอกฟูรูฟิตอยู่ในมือ นั่นคือคุณมีสาส์นรอถ่ายทอด...ทีนี้เหมือนไฟต์บังคับแล้ว ว่าคุณต้องพูดแต่เรื่องนี้ การจะพูดเพื่อเอาใจคนฟังเหมือนตัวอย่างข้างบนก็เป็นไปไม่ได้แล้ว...

แต่จะไปซื่อทำไม ซิกแซกบ้าง

คุณก็แค่ ไปควานหาผู้ฟัง ที่ต้องการฟังเรื่องนี้มาซะสิ

นี่คือหลักการสื่อสารที่ผมใช้เป็น Base ในการทำการตลาดครับ สั้นๆ นะ จำไว้เลย "สาส์น กับ ผู้รับสาส์น ต้องสอดคล้องกันถึงจะเกิดมูลค่า"

ถ้าคุณเข้าใจสิ่งที่ผมสื่อ ไม่ว่าคุณจะไปทำตลาดด้วยอะไร คุณก็ปิดการขายได้ง่ายแล้ว เพราะคุณคุยกับคนที่พร้อมรับสาส์นจากคุณ คุยกับคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าสูง...

ทีเหลือก็แค่ ไปร่างสูตร หรือ วิธีการหา ผู้รับสาส์น ให้คุ้มเวลา คุ้มเงิน คุ้มเรี่ยวแรง ตัวอย่างที่ชัดเจนเลย ก็โฆษณาเฟสบุค (เชิงรุก) หรือ google seo (เชิงรับ) หรือจะอื่นๆ ก็ได้ ยังมีอีกเยอะ

เมื่อได้ผู้รับสาส์นที่สอดคล้องกับสาส์น ก็ปิดการขายมันส์แล้วพะย่ะค่ะ

ก่อนจบ อยากให้พิจารณาอีกประเด็น...ก่อนจะหาลูกค้า อย่าลืมแต่งตัวให้สินค้าหรือผู้ขายให้น่าประทับใจด้วย 

ไม่ใช่แบบว่า...จ้างพริตตี้สวยๆ ไปเรียกคนเข้าร้าน พอลูกค้าเข้าร้าน กลับเจอสินค้าเขรอะฝุ่น หรือเจออาซิ่มปากตลาดยืนเฝ้าเคาน์เตอร์

ถามว่าคุณเป็นลูกค้า จะอยากซื้อไหมล่ะ...หมายังไม่มองเลย

photo ; www.polkapinups.com
ขับเคลื่อนโดย Blogger.