ไม่มีอะไรมาก แค่จะบอกว่า "เบื่อคำคม"
คำไม่คม คนไม่ชม ไม่อยากคัด
คำกำหนัด จัดกร้าน ขยันเขียนปลอบประโลม ลมรมย์ วนวกเวียน
เบื่อคำเลี่ยน เปลี่ยนคำคม สู่นมคำ...#คำนมก่อนนอน
กระแสของคนทำงานไม่ประจำมาแรงมาก ไม่เคยคิดว่า ยุคของคนทำงานน้อยได้เงินเยอะจะเกิดขึ้นได้ ต้องขอขอบคุณวิทยาการจากต่างประเทศ ที่ช่วยให้ชีวิตน้อยๆ ในประเทศด้อยๆ นี้ดีขึ้น
เมื่อองค์ความรู้และวิทยาการ ช่วยให้คนไทยกลุ่มหนึ่ง ประสบความสำเร็จด้านการเงินและงานมากขึ้น ความเชื่อมั่นในศักยภาพตนเองจึงถูกแสดงออกมาอย่างพลั่งพลู
เกิดโคตรอภิมหาคำคมขึ้นมาให้เลือกอ่านมากมาย จนแทบจำสำรอกออกมาเป็นชิ้นๆ
เมื่อก่อนผมก็อยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้แหละ เชื่อว่าตัวเองเจ๋งมาก คิดคำคมที่เข้าข้างตัวเองได้ทั้งวี่ทั้งวัน เขียนมันอยู่นั่น
แต่เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนครับ ตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรไปกว่าการทำมาหาแดกไปวันๆ ไอ้คำคมหรือความลำพองตนไม่เหลือละ
จากคำคม สู่คำนม...เพราะผมยังเป็นคนติดเขียน เป็นคนชอบคิดและถ่ายทอด จึงหาทางระบายตัณหานี้ในคอนเซปต์ใหม่ ไม่ได้คาดหวังอะไรหรอก นึกได้ก็เขียน นึกไม่ได้ก็ข้าม เนื้อหาหลักๆ ก็ไม่มี สาระก็ไม่ได้...แต่ผมก็อยากให้คนถามอยู่นะ ทำไมต้องคำนม
จริงๆ อยากให้พ้องเสียงกับคำว่า คลำนม (ตอบเองเลยก็ได้ 555+) เป็นคำที่แสดงออกถึงความสัปดน...ผมอยากแหวกแนวครับ เพราะเชื่อว่าหลายคนคงเอียนคำคมจากเพื่อนเต็มที ก็อยากให้คำนมนี้ประดุจมะขามเปียกจิ้มเกลือ ตัดเลี่ยนบ้างในบางจังหวะ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเบื่อที่จะคิดพวกคำคม จริงๆ แล้วมาจากคำคมนี้ครับ
"คนเราสามารถฝันได้ แต่ต้องอยู่กับโลกความจริง"
มันทำให้ผมได้ย้อนมองตัวเอง ผมไม่ได้บรรลุอะไรสักด้าน ทำไมต้องพยายามชูตัวเองให้เลิศลอยเหนือคนอื่น...?
จากนั้นผมก็พยายามคิดหัวข้อเขียนในประเด็นที่มันติดอยู่กับความจริงมากที่สุด ล้อเลียน และเสียดสีเป็นนัย (หรือแม้แต่ที่กำลังเขียนนี้ ก็เสียดสีอย่างชัดเจน)
เชื่อไหมครับว่า เรื่องเดียวกัน สามารถเขียนคำคมได้หลากบริบท และบางทีก็ย้อนแย้งจนน่าตกใจ
เช่น
"คนเราหากไม่ออกเดินทางซะทีก็ไม่มีวันถึงเป้าหมาย" กับ "ถ้าไม่พร้อมอย่าผลีผลาม ของบางอย่าง ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวบ่อยๆ..."
แล้วแบบนี้เราจะเชื่อถือในคำคมคำไหนมากกว่ากันดีล่ะ?
ก็เชื่อคำที่มันมีประโยชน์กับชีวิตปัจจุบันมากที่สุดไงล่ะครับ เพราะคำพวกนี้ ไม่สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต...จงพิจารณาโลกความจริงมากที่สุดครับ จริงในที่นี้ คือตัวตนที่นั่งหน้าจอคอมฯ นะ ถ้าไม่มีแดกก็ไปทำงานซะ ถ้าอยากรวยขึ้นก็จ่ายให้น้อยกว่าที่รับ แค่นั้นเอง...
ผมมีเพื่อนที่ขยันแชร์คำคมทั้งวัน (ไม่รู้จะเผื่อแผ่ทำไมนักหนา) แต่ตัวเองก็ยังเดินในฝั่งที่เรียกว่าสวนทาง มองไม่ออกว่าคำคมเหล่านั้นได้ช่วยอะไรเพื่อนบ้างหรือไม่?
ผมอยากมุดเฟซบุ๊กโผล่ไปเคาะหัวเพื่อนให้ตื่นครับ ก๊อกๆๆๆๆ ไม่ต้องไปอ่านมันทั้งหมดหรอก อ่านไปก็ไม่จำ เลือกมา 1 คำ แล้วทำให้ได้ก็พอ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่มีคติพจน์หรือคำคมประจำใจ ในการดำเนินชีวิตตอนนี้ ผมยึดมั่นเพียง 3 คำเท่านั้น คือ ทัศนคติ มุมมอง และ วิธีคิด
มันคือสิ่งที่ช่วยพัฒนาคนอย่างผมให้ดีขึ้นได้ ไม่ใช่คำคมส้นตีนอะไรพวกนั้นหรอก เพราะถ้าวันนี้ผมยัง...
►ขาดทัศนคติที่ดี ผมก็จะไม่เห็นว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้น่าพิศมัย และอาจเลิกล้มมันไปนานแล้ว
►ขาดมุมมองที่กว้าง ก็จะไม่เห็นโอกาสดีๆ ไม่ได้หาสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา
►ขาดวิธีคิดที่ดี ตอนนี้ผมก็คงเหมือนงูกินหาง วนไปวนมา ไม่พัฒนาไปไหน
►ขาดวิธีคิดที่ดี ตอนนี้ผมก็คงเหมือนงูกินหาง วนไปวนมา ไม่พัฒนาไปไหน
หาก...ผมจะผลักดันใครให้ประสบความสำเร็จ ผมจะสอนเขาให้คิด สอนเขาให้รู้ เพราะผมรู้สึกว่ามันดีกว่าการยัดเยียดคำพูดสวยหรูไปวันๆ...ครับ
Leave a Comment