เรียนจบหรือไม่จบ ไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จชีวิตนะจ๊ะ !!!




เจอภาพนี้อีกแล้ว !!! ถึงจะเป็นภาพล้อเลียนขำๆ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยเท่าไรกับความคิดที่มักตามมา คือ

คนไม่เรียนหรือเรียนไม่จบ มักรวยและประสบความสำเร็จ มากกว่าคนที่เรียนจบสูงๆ 

ตัวอย่างที่แชร์ๆ กันในโลกโซเชียลฯ ก็อย่างเช่น มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก, สตีฟ จอบส์ หรือ ต๊อบ เถ้าแก่น้อย

ผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่จะบอกว่า เอ้ย ไม่ต้องเรียนหรอก เรียนไปก็จน...

ผมยอมรับว่าปัจจุบัน ผมมักพูดกับทุกคนว่าถ้าย้อนเวลาได้ ผมจะหยุดเรียนตั้งแต่ ม.3 นั่นเพราะปัจจุบันผมรู้ว่าสิ่งที่ผมเรียนมามันไม่ได้ใช้งานจริง แต่ถ้าย้อนไปแล้วความทรงจำลบหาย...ยังไงผมก็ต้องเลือกที่จะเรียนไว้ก่อน เพราะมันคือโอกาส !!!

ผมกล้าพูดเลย สิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวว่าคุณจะเรียนจบหรือไม่จบหรอก หลายคนที่เรียนจบสูงแล้วประสบความสำเร็จตามที่เรียนมีเยอะแยะ แค่ไม่เป็นข่าวเฉยๆ ส่วนคนที่เรียนไม่จบ ที่ขายพวงมาลัยตามสี่แยกเยอะแยะไป ทำไมไม่ลองถามน้องๆ เค้าดูว่าได้เรียนหรือเปล่า?

บอกเลยว่า สิ่งที่ทำให้คุณกาก คือ ความคิดของคุณต่างหาก คิดแค่ว่าเรียนมาแล้วก็แล้ว พอจบก็ถึงเวลาเสวยสุขตามที่เรียนมา หยุดการเรียนรู้เพิ่มเติม หยุดการพัฒนาตัวเองต่อ หรือ ไม่คิดจะค้นหาศักยภาพใหม่ที่อาจจะเหมาะสมมากกว่า...

คุณเป็นคนหยุดตัวคุณเองนะ !!!

ถ้ามองย้อนไปที่ มาร์ก, จอบส์ หรือ ต๊อบ ถ้าเขาหยุดเรียนจริงๆ เขาคงไม่มาได้ถึงเพียงนี้...ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้ถูกประทานมาจากฟ้า แต่เขาดิ้นรนและค้นหาวิธีสำเร็จด้วยตัวเอง หรือเรียกอย่างเข้าใจง่ายๆ คือ เรียนรู้นอกรั้วสถาบัน

คุณเองก็ทำได้ ใครก็ทำได้ ขอแค่ไม่หยุดเรียนรู้ key word มันแค่นั้นครับ

ผมมองว่าคนที่ชอบโบ้ยความล้มเหลวของตัวเองให้คนอื่นหรือสิ่งอื่น ก็แค่พวกขี้แพ้หาข้ออ้างปลอบใจตัวเอง...แค่นั้นจริงๆ

อุตส่าเรียนมาตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย กลับทำได้แค่ลูกจ้างชั้นล่าง รับรายได้แบบใช้หมดเป็นเดือนๆ ถามว่าความผิดของสถาบันไหม?

คิดสิคิด !!!

ขับเคลื่อนโดย Blogger.