ปรับทัศนคติใหม่ มีแต่ได้กับได้ ไม่เชื่อ...ต้องอ่าน !!!
ผมรู้จักคนที่ขยันอ่านคำคม ดูหนังสร้างแรงบันดาลใจ ตามรอยคนเก่ง...แต่ไปไม่ถึงไหนเยอะแยะเลย (ซึ่งก็รวมทั้งผมด้วยเช่นเดียวกัน)
จนเมื่อผมหลงรักคำ 3 คำนี้
ผมก็เลิกให้ความสนใจสิ่งเหล่านั้นไปเลย เพราะผมเข้าใจแล้วว่า เมื่อใจเรายังปิดกั้น ไม่เข้าใจหลักการเหล่านี้ ต่อให้พยายามยัดเยียดห่าอะไรเข้ามาเท่าไรมันก็เหมือนรินน้ำลงแก้วที่เต็มแล้ว...(เริ่มเข้าสู่หลักธรรม)
ทดสอบง่ายๆ เลย ถ้าคุณคิดว่าใจของตัวเองเปิดและพร้อมรับทุกอย่างจริงๆ...ลองสังเกตตัวเองตอนเพื่อนคุณเข้ามาชวนทำ MLM หรือ ขายตรง สิ
สังเกตว่าใจคุณในแว้บแรกเลย ปิด หรือ เปิด !!!...คงไม่ต้องอธิบายต่อนะครับ
ตอนนี้ผมเองก็ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรหรอกนะครับ แต่ไหนๆ ก็คิดว่ามันน่าจะพอมีประโยชน์บ้าง เลยจะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับคำ 3 คำนี้ (ในความเข้าใจของผมนะ)
วันนี้ขอหยิบตัวอย่างสั้นๆ มาอธิบายให้เห็นภาพกันสัก 1 คำก่อนนะครับ คือคำว่า ทัศนคติ
ทัศนคติ หมายถึง ความรู้สึกและท่าทีของคนเราที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นความรู้สึกในทางบวกหรือลบก็ได้ และมีผลทำให้บุคคลพร้อมที่จะตอบสนองต่อสิ่งนั้นตามความรู้สึกดังกล่าว...
เชื่อไหมครับว่า เรามีทัศคติอย่างไร สิ่งสิ่งนั้นก็มักเข้ามาหาเรา เช่น เราคิดบวก ก็ได้แต่สิ่งที่เป็นบวก ได้สิ่งที่สร้างสรรค์
ต่อเมื่อเรามีทัศนคติที่ลบ แม้นคนจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา เราก็อาจปามันทิ้งไปอย่างง่ายดาย และพลาดโอกาสดีๆ ไปในที่สุด ฯลฯ
หรืออีกตัวอย่าง เป็นข้อเปรียบเทียบสำหรับคนที่มีทัศนคติที่ไม่ดี
หากมีคนคนนึงเดินมาชมเรา "อุ้ย !! วันนี้แต่งตัวดีนะเธอว์"
คนที่มีทัศนคติด้านลบ จะตั้งแง่ไว้ก่อนเลย...ยัยนี่มาแปลก ปกติไม่เคยชม มันต้องมีอะไรแน่ๆ หรือจะหลอกใช้งานอะไรเรา หรือตั้งใจจะเหน็บแนม หรืออยากแซวให้เราอับอายรึ?
...แล้วการตอบโต้ในเชิงลบก็จะเกิดขึ้นตามมา
แต่กับคนที่มีทัศนคติที่ดีต่อกัน คำพูดนั้นจะเป็นคำชมคำนึง ซึ่งจะทำให้เราอมยิ้มได้ รู้สึกมั่นใจขึ้น คิดอยากแต่งตัวให้ดูดีเช่นนี้บ่อยขึ้น...แล้วการเริ่มต้นปรับบุคลิกภาพอย่างจริงจังก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ ฯลฯ
เห็นไหมว่า ทัศนคติด้านนั้นๆ จะดึงดูดสิ่งที่สอดคล้องกันเข้ามา...
นี่เป็นเพียงตัวอย่างนะครับ แต่การที่จู่ๆ จะมาปรับทัศนคติให้ดีในทุกเรื่อง...มันทำไม่ได้หรอก มันก็เหมือนมีคนมาสั่งให้เราทำในสิ่งที่เราไม่คุ้น ฝืนพฤติกรรม เรายิ่งต่อต้านขึ้นไปอีก เราต้องเริ่มอย่างอื่นในด้านบวกไปพร้อมกันด้วย อย่างเช่น ผลประโยชน์ร่วมทั้งสองฝ่าย จดจำเรื่องราวดีๆ ร่วมกัน มุมมองกว้างและหลากหลายด้าน สติ ลดทิฐิ ลดอัตตา ฯลฯฯฯฯฯฯ
ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เริ่ม แล้วมันจะช่วยพยุงสิ่งอื่นๆ ให้ดีขึ้นตามมาครับ
ปล. ไม่ได้บรรลุนะครับ แค่พอรู้ เลยมาแชร์ต่อ บทความนี้ถ้าคิดบวกก็ได้ คิดลบก็หายเปล่าครับ
photo;
Leave a Comment