นิทานประกอบการเรียนบริหารรัฐกิจและธุรกิจ


ยาวหน่อย แต่ถ้าใครหวังจะรวย ต้องอ่านครับ 

1.เกิดไฟใหม้ที่โรงอาบน้ำหญิง กลุ่มหญิงเปลือยล่อนจ้อนวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาบนท้องถนน ตาแก่คนหนึ่งตะโกนฮาป่า บรรดาหญิงเปลือยนึกขึ้นได้จึงพยายามใช้มือปกปิดแต่จุดล่อแหลมมีอยู่หลายจุด จึงต่างจ้าละหวั่นทำอะไรไม่ถูก 

ตาแก่ตะโกนบอก “ปิดใบหน้าก็พอ ข้างล่างมันเหมือนกันหมด” 

เรื่องนี้ให้แนวคิดว่า ในภาวะฉุกเฉิน ไม่อาจทำอะไรให้รอบคอบทุกด้าน จับจุดสำคัญก็พอ

2.สาวใหญ่แจ้งความกับตำรวจ “ดิฉันเสียบกระเป๋าเงินไว้ในยกทรง เบียดเสียดในรถไฟใต้ดิน จนถูกหนุ่มหล่อล้วงกระเป๋าไป”

ตำรวจขมวดคิ้ว “ล้วงในจุดล่อแหลมขนาดนี้ คุณไม่รู้สึกตัวรึ?”

สาวใหญ่ตอบเหนียมอาย “ก็ไม่นึกว่าเขาตั้งใจจะล้วงกระเป๋าน่ะสิคะ”

เรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การทำให้ลูกค้าตกอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้ม พอใจที่จะถูกรีดเงิน เป็นชั้นเชิงสูงสุดทางธุรกิจ

3.วันหนึ่ง เลขานุการสาวตีหน้าขึงขัง กับผู้จัดการ “ผู้จัดการคะ ดิฉันตั้งท้อง”

ผู้จัดการได้ยินดังนั้น ยังคงก้มหน้าอ่านเอกสาร แล้วตีหน้าตายพูดว่า “ผมทำหมันตั้งนานแล้ว”

เลขานุการสาวตะลึงอยู่ชั่วขณะ แล้วยิ้มให้ผู้จัดการ “ดิฉันพูดเล่นค่ะ”

ผู้จัดการเงยหน้ามองเธอ “ผมก็หมือนกัน” พร้อมกับจีบน้ำชา

เรื่องนี้ให้แนวคิดว่า คนที่อยู่ในสังเวียน ต้องไม่ตระหนกตกใจง่าย เมื่อเผชิญภาวะวิกฤต แม้มีปืนเล็งมาก็ตั้งตัวรับได้

4.เถ้าแก่เบื่อเมียลับเต็มทน เมียลับเริ่มแก่ตัว จึงขอค่าเลี้ยงดูก้อนใหญ่ เถ้าแก่คิดจะฆ่าปิดปาก แต่ CFO เสนออุบายให้เถ้าแก่ออกทุนแสนหยวน ส่งเมียลับไปเรียน EMBA โดยอ้างเหตุผล เพื่อยกระดับวุฒิการศึกษา

ในห้องเรียน EMBA ล้วนเป็นนักศึกษาระดับเถ้าแก่ ต่างหลงเสน่ห์นักศึกษาสาวเมียลับคนนี้ ไม่ช้าไม่นาน เมียลับก็ไม่ขออยู่กับเถ้าแก่เก่าแล้ว แถมยังให้เงินล้านแก่เถ้าแก่เก่า เป็นค่าปิดปาก

เรื่องนี้ให้แนวคิดว่า การจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพของธุรกิจ วิธีที่ดีที่สุดคือ ย้อมแมวตกแต่งแล้วแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน ไม่ใช่ถือเป็นซากทิ้งไป หรือรอให้ย่อยสลายเอง

ขับเคลื่อนโดย Blogger.